โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวันค้นพบ

หน้าเว็บ

Home





















  



ตัดเท่าไรจึงจะพอ


นายชุ่มชื่นมีอาชีพขายฟืน  อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งใกล้เชิงเขา 
ทุกวันเขาจะเก็บกิ่งไม้แห้งจากเชิงเขาเพื่อนำไปขายในตลาด
 
ชาวบ้านซื้อกิ่งไม้ไปทำฟืนสำหรับหุงต้ม  ฟืนของนายชุ่มชื่นขายดิบขายดี
นายชุ่มชื่นได้เงินกลับบ้านมา  ก็แบ่งให้ภรรยาไว้ใช้สอยประจำวัน 


"..เล่เข้ามา เร่เข้ามา ไม่ซื้อไม่หาไม่ว่าอะไร 
ฟืนนายชื่นเนื้อไม้แห้งสนิท 
จุดง่ายติดง่ายใช้งานนานกว่าใคร
"


วันหนึ่งภรรยานายชุ่มชื่นพูดกับสามีว่า..

ภรรยา...เดินเก็บกิ่งไม้แห้งไปขายเมื่อไหร่จะร่ำรวยสักที 
..แต่นายชุ่มชื่นก็ไม่สนใจ
แล้วก็ลงมือตัดต้นไม้ต่อไป ได้ไม้กองใหญ่นำไปขายได้เงินมากกว่าเดิม


แล้วก็พบกับสัตว์ป่าฝูงหนึ่งมาขอร้องไม่ให้ตัดต้นไม้
เพราะจะทำลายที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์เหล่านั้น 

แต่นายชุ่มชื่นก็ไม่สนใจและยังคงตัดต้นไม้ต่อไป

..โค่น โค่น โค่น  ตัด  ตัด  ตัด
ไม้ใหญ่ ไม้เล็ก เรามาตัดกัน!!!


นายชุ่มชื่น บ่นกับภรรยา
ถึงความผิดพลาดจนก่อนให้เกิดความสูญเสียใหญ่หลวง




แล้วก็ถึงวันที่ธรรมชาติลงโทษ
เมื่อป่าไม้เหลือแต่ตอไม่มีต้นไม้คอบโอบอุ้มซับน้ำฝน 
พอเกิดพายุใหญ่  ลม และฝนก็โหมกระหน่ำ 

น้ำป่าไหลบ่าพัดพาเอาท่อนซุงที่กองไว้   ทับถมหมู่บ้านจนพังพินาท  
เกิดน้ำท่วมใหญ่  ทั้งหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ
นายชุ่มชื่นและภรรยาต้องไปอาศัยบนหลังคาบ้าน

ฝ่ายภรรยาเมื่อเห็นสามีได้เงินมากขึ้นก็เกิดความโลภ

จึงยุให้สามีไปตัดต้นไม้ให้หมดทั้งป่า

นายชุ่มชื่นเห็นด้วย  จึงเกณฑ์ญาติพี่น้องมาช่วยกันตัดต้นไม้  
นายชุ่มชื่น..ใช่นั่นสิ   ทั้งๆที่ฟืนฉันก็ขายดิบขายดี
ภรรยา... ฉันว่านะ  แทนที่จะเก็บกิ่งไม้  เปลี่ยนเป็นไปตัดต้นไม้น่าจะดี

รุ่งเช้านายชุ่มชื่นจึงออกตัดต้นไม้ที่ขึ้นรอบๆเชิงเขา
ขณะที่นายชุ่มชื่นกำลังตัดต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่
ก็มีแม่นกกางเขนตัวหนึ่งบินมาขอร้องไม่ให้ตัดต้นไม้ต้นนั้น